กิจกรรม

โครงการการจัดการความรู้ : จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ภายใต้ชื่องาน “วาเลนไทน์ หัวใจไทย”

รองศาสตราจารย์สุภัทรา โกไศยกานนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เป็นประธานเปิดโครงการการจัดความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม : จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ภายใต้ชื่องาน “วาเลนไทน์ หัวใจไทย” เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมกรมหลวง ชั้น 6 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม

ในการนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยุทธภูมิ สุวรรณเวช รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและศิษย์เก่า กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ ระบุ “ศิลปวัฒนธรรมไทย เป็นมรดกล้ำค่า ที่ลูกหลานไทยต้องปกปักรักษา….และสืบทอด เพื่อความยั่งยืน!” โดยในการจัดกิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากบุคลากรทั้งในมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายนอก อาทิ ผู้บริหารระดับสูง คณาจารย์ นักศึกษา นักเรียน ประชาชนผู้สนใจทั่วไป บุคลากรจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมตรวจบัญสีสหกรณ์ หอสมุดแห่งชาติ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ศูนย์การค้าสุพรีม คอมเพล็กซ์ โรงเรียนราชวินิต และ โรงเรียนวัดเทวราชฯ ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวมากถึง 150 คน

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เริ่มด้วยการแสดงพิธีเปิดโครงการ ที่ใช้การประยุกต์เอาศิลปวัฒนธรรมไทยผสานกลิ่นไอของโมเดิร์นแดนซ์ เป็นผลงานศิลปกรรมไทยร่วมสมัยประทับใจผู้ร่วมงาน ชื่อชุด “Valentine Style Thai Culture” ควบคุมการแสดงโดย อาจารย์วัชรพงษ์ สูงปานเขา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาและ ว่าที่ ร.ต.สราทตรา เล่งไพบูลย์ บุคลากรงานกิจกรรมนักศึกษา ในการทำกิจกรรมได้แบ่งการถ่ายทอดองค์ความรู้เป็น 3 ส่วน ได้แก่ การทำ “กระเช้าสบู่หอมสานรัก” โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ได้แก่ อาจารย์ปิยะธิดา สีหะวัฒนกุล และ อาจารย์อารยะ ไทยเที่ยง / การ “เพ้นกระเป๋าผ้า DIY Lovely Bag” มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ ได้แก่ ดร.กิ่งกาญจน์ พิจักขณา และ อาจารย์มยุรี เรืองสมบัติ / การทำ “พวงกุญแจผ้าแทนใจ” มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจาก คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น ได้แก่ อาจารย์จรัสพิมพ์ วังเย็น และ อาจารย์นิตยา วันโสภา

อนึ่ง ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เข้าฝึกอบรมภาคปฏิบัติทำชิ้นผลงานจริง ความรู้ที่ได้รับสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ หรือถ่ายทอดองค์ความรู้ไปยังผู้อื่น เพื่อสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมไทย ให้มีความยั่งยืน..สืบไป