กิจกรรม

ชมรม มทร.พระนครอาวุโส จัดล่องเรือเจ้าพระยา ไหว้พระ 9 วัด ดูแลผู้อาวุโส อวดศักยภาพหวังส่งเสริมสุขภาพกายใจ เตรียมพร้อมก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยในอนาคต

     รศ.สุภัทรา โกไศยกานนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยให้การสนับสนุนชมรม มทร.พระนครอาวุโส ในการจัดกิจกรรมสำหรับสมาชิก ประเดิมกิจกรรมแรกของปี 2560 ใน “โครงการชมรม มทร.พระนคร อาวุโส รักษ์ธรรม รักษ์ไทย” กิจกรรมที่ 1 กิจกรรมธรรมมะสัญจร สะสมเสบียงบุญรับปีใหม่ ล่องเรือไหว้พระ 9 วัด ณ เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2560

     ในการนี้ กองศิลปวัฒนธรรม ฝ่ายกิจการนักศึกษา ม.ราชมงคลพระนคร เป็นผู้ประสานงานดำเนินกิจกรรม นำสมาชิกชมรม มทร.พระนครอาวุโส ออกเดินทางจากท่าเรือเทเวศร์ ล่องตามแม่น้ำเจ้าพระยาสู่จังหวัดนนทบุรี แหล่งศิลปวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลของศิลปะแบบมอญ ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยได้รับความอนุเคราะห์มัคคุเทศก์จากสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร

     กิจกรรมเริ่มที่วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร อันเป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2390 แล้วเสร็จในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่ พระอัยกา พระอัยกี และสมเด็จพระศรีสุลาลัยพระบรมราชชนนี จุดเด่นของวัดอยู่ที่การผสมผสานศิลปะแบบจีน และจิตรกรรมภายในพระอุโบสถ คล้ายในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

     จากนั้น ล่องเรือต่อไปยังพุทธสถานเชิงท่า – หน้าโบสถ์ อยู่ในเขตกรมชลประทาน ต.บางตลาด ด้านทิศใต้ของเกาะเกร็ด สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลายถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น หลวงพ่อโต พระประธานยังคงสมบูรณ์ ชาวบ้านเรียกว่า หน้าพระอุโบสถวัดหน้าโบสถ์ มีสัญลักษณ์รูปเสือ และ ศาลเจ้าพ่อเสือ ตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของพระอุโบสถ แสดงถึงหลวงพ่อเสือ หลวงพ่อศักดิ์สิทธ์ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน ต่อเนื่องยังวัดแสงสิริธรรม ซึ่งเป็นวัดที่สร้างขึ้นในราว พ.ศ.2327 ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธศรีโรจนชัย กับหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปหล่อสัมฤทธิ์ ซึ่งประชาชนนิยมมาเคารพสักการะขอพร โดยเฉพาะ “ของหายได้คืน” ดังประวัติของหลวงพ่อดำที่แม้จะถูกขโมยลักไปจากพระอุโบสถถึง 3 ครั้ง แต่ก็มีเหตุให้ขโมยไม่สามารถนำไปได้ และกลับมาประดิษฐานยังวัดได้ทุกครั้ง

     ช่วงสายแดดเริ่มแรง แต่ลมจากแม่น้ำยังทำให้สมาชิกชมรมชื่นใจ มีกำลังไปต่อ ณ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ วัดเก่าแก่สมัยอยุธยา เดิมชื่อวัดใหญ่บางน้อย ภายในอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่อแสน ภายในวัดยังมีตลาดริมน้ำ ให้เพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าจากชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านและสินค้าชุมชนที่มีความหลากหลายและน่าสนใจ

     ก่อนจะไปต่อ เรือเทียบท่าที่บ้านขนมหวานสมชาย เลือกซื้อขนมหวานไทยๆ ทั้งทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองเอก เพิ่มระดับน้ำตาล เติมความสดชื่นและเลือกหากลับไปเป็นของฝากกัน

     นั่งเรืออีกอึดใจ ก็เห็นพระองค์ใหญ่ ที่แม้จะอยู่ในช่วงกำลังบูรณะ ก็เห็นเค้าความงามขององค์พระ และแวะขึ้นบกที่นี่ วัดบางจาก ด้วยพื้นที่กว้างขวาง ภายในวัดจึงมีประติมากรรมตามคติพุทธ ทั้งประวัติทศชาติ บอกเล่าเรื่องราวการบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้า มหาเวสสันดรชาดก และพุทธประวัติ
แล้วคณะก็ได้ข้ามฟากมายังฝั่งเกาะเกร็ด เด่นชัดด้วยพระเจดีย์เอียงริมน้ำ โบราณสถานสำคัญคู่วัดปรมัยยิกาวาส ราชวรวิหาร งดงามด้วยศิลปะการสร้างเจดีย์ลักษณะแบบมอญ แต่ภายในพระอุโบสถ จะพบกับการตกแต่งในแบบยุโรป อันเนื่องมาจากวัดได้รับการบูรณะในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ตกแต่งตามศิลปะยุโรปตามแบบพระราชนิยมด้วยวัสดุนำเข้าจากอิตาลี คณะสมาชิกชมรมยังได้สักการะพระพุทธไสยยาสน์ ความยาว 9.50 เมตร ภายในพระวิหาร และพระนนทมุนินทร์ พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย

     ถัดจากวัดปรมัยิกาวาส เดินเลาะไปตามทาง รับประทานอาหารกลางวัน ก่อนจะเดินเท้ากันต่อไปยังวัดที่เหลือ สมาชิกชมรม มทร.พระนครอาวุโสก็ตัวเบาไปกับสินค้าน่าสนใจ โดยเฉพาะเครื่องปั้นดินเผา สินค้าขึ้นชื่อในเกาะเกร็ด ไม่ว่าจะเป็นครกดินเผาน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง หรือแก้วดินเผาที่แกะสลักอย่างสวยงาม
ก่อนจะไปถึงวัดไผ่ล้อม โดดเด่นด้วยหน้าบันลายดอกไม้สวยงาม เดินต่อไปอีกนิด ก็พบวัดเสาธงทอง วัดเก่าแก่ที่มีโบราณสถานสำคัญคือเจดีย์ที่สูงที่สุดในเขตอำเภอปากเกร็ด ด้านข้างโบสถ์มีเจดีย์องค์ใหญ่อีก 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังกลม อีกองค์หนึ่งมีรูปแปลกมีฐานเหลี่ยม องค์ระฆังทำเป็นทรงกลมสูง