ชื่อวิทยาศาสตร์ | Acacia auriculaeformis Cunn. |
---|---|
ชื่อวงศ์ | LEGUMINOSAE-MIMOSOIDEAE |
ชื่อสามัญ | Wattle |
ลักษณะ | ไม้ต้นขนาดกลาง เรือนยอดแผ่กว้าง ทรงพุ่ม มีใบและกิ่งก้านหนาแน่น ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น เมื่อยังเป็นกล้าอยู่ และร่วงไปเมื่อเจริญขึ้นเหลือเพียงก้านใบแล้วแปรสภาพเป็นแผ่นคล้ายใบ เรียงสลับถี่และห่างกันเป็นระยะๆ ก้านคล้ายใบรูปขอบขนาน ปลายเรียวแหลมทั้ง 2 ด้าน โค้งเป็นรูปเคียว ช่อดอกแบบช่อแยกแขนงออกเป็นคู่ๆ ตามง่ามใบและปลายกิ่ง ช่อหนึ่งๆ ประกอบด้วยดอกเล็กๆ เป็นกระจุกจำนวนมาก เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก สีเหลือง เมื่อดอกบานจึงทำให้เห็นช่อดอกมีสีเหลือง กลิ่นหอม ฝักแบน บิดม้วนเป็นวงกลม 1-3 วง เมื่อแก่แตกออกทั้ง 2 ด้าน มี 5-12 เมล็ด เมล็ดสีน้ำตาลดำเป็นมัน |
ประโยชน์ | ปลูกเป็นไม้ประดับและปลูกเป็นสวนป่า |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ | |
1. ราก และลำต้น กระถินณรงค์ | เป็นไม้ขนาดกลาง มีลำต้นสูงประมาณ 10-20 เมตร ลำต้นทรงกลม ตั้งตรง แต่หากพื้นที่แห้งเลี้ยงมาก ลำต้นจะไม่สมมาตร เปลือกของต้นอายุน้อยมีสีเทา ผิวขรุขระ เมื่อต้นเจริญเต็มที่ เปลือกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ผิวเป็นร่องแตกสะเก็ด แตกกิ่งก้านมาก และหนาแน่นมากบริเวณเรือนยอด สามารถแตกกิ่งได้ในระดับล่างของลำต้น กิ่งอ่อนมีสีเขียว กิ่งแก่มีสีน้ำตาลเนื้อไม้กระถินณรงค์ เมื่ออายุประมาณ 3-5 ปี จะมีสีเหลืองอ่อน ยังไม่มีลวดลายปรากฏมากนัก เมื่ออายุ 5-10 ปี จะเริ่มมีีเหลืองเข้มจนถึงน้ำตาล และเริ่มมีลวดลายให้เห็นบ้าง เมื่ออายุมากกว่า 10 ปี จะมีสีน้ำตาลจนถึงเป็นสีน้ำตาลเข้ม เป็นลายด่างให้เห็นชัดเจน และหากมีอายุมากจะมีสีน้ำตาลเข้ม และมีลายดำปะปน |
2. ใบ | กระถินณรงค์เป็นพืชไม่ผลัดใบ แตกใบได้ตลอดทั้งปี ต้นอ่อนแตกใบ 1-2 คู่ เป็นใบผสมขนาดเล็ก เมื่อโตขึ้นใบผสมจะร่วงหมดเกิดเป็นใบเดี่ยวแท้ แตกออกตามกิ่งเรียงสลับกัน ใบมีลักษณะเรียวยาว และโค้งเป็นรูปเคียว มีสีเขียวเข้ม ลักษณะค่อนข้างหนา ใบกว้างประมาณ 1.2-2.5 ซม. ยาวประมาณ 10-16 ซม. มองเห็นเป็นเส้นใบ 3 เส้น ขนานกันตามแนวยาวจากโคนใบจรดปลายใบ |
3. ดอก | กระถินณรงค์ออกดอกเป็นช่อ ตามซอกใบ ดอกห้อยยาวคล้ายหางกระรอก มีสีเหลือง ส่งกลิ่นหอม แต่ละช่อดอกประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก 70-100 ดอก มีขนาดเล็กประมาณ 1 มิลลิเมตร ดอกออกปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ครั้งที่ 2 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม ของอีกปี ใช้เวลาจากออกดอกถึงดอกบานประมาณ 45-50 วัน ดอกที่ผสมจะกลายเป็นฝัก ส่วนดอกที่ไม่ได้ผสมจะร่วง โดยในหนึ่งช่อดอกจะมีดอกที่ผสมติดกลายเป็นฝักประมาณ 2-5 ฝัก |
4. ผล | ผลมีลักษณะเป็นฝัก ม้วนงอขยุกขยิก ฝักอ่อนจะมีสีเขียว ฝักแก่มีสีน้ำตาลเข้ม และดำตามอายุของฝัก เมื่อแก่มาก ฝักจะแตกเป็น 2 ซีก ตามแนวตะเข็บขอบฝัก แต่ละฝักมีเมล็ดประมาณ 10-15 เมล็ด เมล็ดมีลักษณะกลมแบน มีรกสีเหลืองติดเมล็ด เมล็ดมีขนาดประมาณ 2.5-4.5 มิลลิเมตร สีเมล็ดออกสีน้ำตาลเข้มถึงดำ เมล็ดหนัก 1 กิโลกรัม จะมีเมล็ดประมาณ 66,600 เมล็ด |