ชื่อ | อินทนิล |
---|---|
ชื่อวิทยาศาสตร์ | LYTHRACEAE |
ชื่อเรียกอื่น ๆ | ฉ่องมู ตะแบกดำ บาเย บาเอ |
ลักษณะ | ไม้ต้น สูง 5-20 ม. ผลัดใบแต่ผลิใบใหม่เร็ว ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเป็นคู่หรือเยื้องกันเล็กน้อย รูปขอบขนานแกมรูปไข่ กว้าง 6-10 ซม. ยาว 12-26 ซม. โคนใบมนปลายใบแหลม ดอกสีชมพูถึงม่วง ออกเป็นช่อยาวถึง 30 ซม. ดอกบานเต็มที่กว้าง 10 ซม. กลีบรองดอกรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 6 แฉก มีสันนูนตามยาว กลีบดอกมี 6 กลีบ รูปช้อนปลายแผ่ โคนกลีบเป็นก้านเรียว แผ่นกลีบเป็นริ้วคลื่น มีเกสรผู้จำนวนมากตรงกลางดอก ยอดเกสรสีเหลือง ผลเป็นผลแห้ง รูปกระสวยป่องกลาง ผิวแข็ง เกลี้ยง ยาว 2-2.5 ซม. เมื่อแก่แตกเป็น 6 แฉก เมล็ดขนาดเล็ก มีปีกบางโค้งทางด้านบนหนึ่งปีก อินทนิล อยู่ในสกุล Lagerstroemia ตั้งให้เป็นอนุสรณ์แก่ Magnus Lagerstroem พ่อค้าชาวสวีเดน ที่ได้พันธุ์ไม้นี้ไปจากแถบเอเซีย ไม้ต้นนี้มีชื่อพ้องว่า L.flos-reginae คือ Flower of the Queen แปลว่าดอกไม้แห่งราชินี เป็นการยกย่องความงามของดอกไม้นี้อย่างสูง |
การกระจายพันธุ์ | พบขึ้นกระจายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามที่ราบลุ่มและริมน้ำในป่าเบญจพรรณชื้น และชายป่าดงดิบ ออกดอกช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม |
ประโยชน์ | มีรูปทรงและให้ดอกสวยงาม ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ ชาวพื้นบ้านใช้ใบอ่อนตากแดดแล้วชงเป็นชาแก้เบาหวานและลดความอ้วน |
แหล่งข้อมูล
- หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 5
- หนังสืออนุสรณ์แม่โจ้
- http://frynn.com/
- http://www.pompernpong.net/